ความสำคัญของเจตคติ (Attitude)
เพราพรรณ เปลี่ยนภู่ (2540)
กล่าวว่า เจตคติ หรือ
ทัศนคติ
เป็นความรู้สึกของบุคคลต่อความนึกคิดซึ่งความรู้สึกนี้ค่อนข้าวจะแน่นอน มีทิศทางการแสดงออกให้เห็นว่าเขายอมรับ หรือไม่ยอมรับวัตถุหรือบุคคลนั้นๆ
ทัศนคติเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
แต่ค่อนข้างยาก เพราะความรู้สึกนี้ค่อนข้างจะแน่นอนและเป็นความรู้สึกที่สร้างจากการมองความสัมพันธ์ว่า สิ่งนั้นหรือคนนั้นดีหรือไม่ดีต่อตัวเรา ซึ่งความรู้สึกนี้มีอิทธิพลทำให้เรายอมรับ หรือไม่ยอมรับสิ่งนั้นด้วย ดั้งนั้น
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ จึงเปลี่ยนแปลงได้ยากจะต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในตัวบุคคลนั้น เช่น
ความนึกคิด อารมณ์ ประสบการณ์ ฯลฯ ของบุคคลนั้น โดยปกติการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ มีผลกระทบกระเทือนคนอื่นๆ ในสังคม
เพราะการจะมี “ทัศน” ต่อสิ่งใด
มักจะเอาทัศนของสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ลักขณา สริวัฒน์ (2549) กล่าวว่า เจตคติเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเรื่องหนึ่งของพฤติกรรม ซึ่งสรุปความสำคัญได้ ดังนี้
1. เจตคติเป็นมโนมติที่ครอบคลุมปรากฏการณ์หลายอย่างได้ เช่น ความรักของบุคคลที่มีต่อครอบครัวก็สรุปรวมถึงพฤติกรรมหลายอย่างของบุคคลได้ ในการใช้เวลากับครอบครัวมาก ดูแลสมาชิกในครอบครัวทำสิ่งต่าง
ๆ ให้สมาชิกในครอบครัว ตลอดจนถึงให้การดูแลเอาใจใส่
และปลอบใจสมาชิกในครอบครัว
2. เจตคติเป็นสาเหตุของพฤติกรรม
นักจิตวิทยาสังคมจำนวนมากเชื่อกันว่า เจตคติเป็นสาเหตุของพฤติกรรม จึงได้พยายามทำการวิจัยเพื่อแสดงหลักฐานให้เห็น
และก็มีหลักฐานมาสนับสนุนพอสมควร แต่ก็มีงานวิจัยที่แสดงว่าพฤติกรรมเป็นสาเหตุของเจตคติได้เช่นกัน การที่มีงาน วิจัยเกิดขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักจิตบำบัด นักพฤติกรรมบำบัด
ผู้แนะแนว หรือครูแนะแนว และครูโดยทั่วไป
3. เจตคติมีความสำคัญในตัวเอง
ไม่ว่าเจตคติของบุคคลจะมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมของเขาหรือไม่ก็ตาม เช่น เจตคติต่อสถาบันต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นแนวทางที่เขารับรู้โลกรอบตัวเขาจึงเป็นเรื่องสำคัญน่าศึกษาในตัวเอง
4. เจตคติเป็นเรื่องที่นักจิตวิทยาหลายสาขาสนใจร่วมกัน
นอกจากนักจิตวิทยาสังคมที่สนใจศึกษาเรื่องเจตคติแล้วนักจิตวิทยาสาขาอื่น ๆ ก็สนใจในเรื่องเจตคติเช่นเดียวกัน เช่น นักจิตวิทยาคลินิก อาจสนใจศึกษาเจตคติที่บุคคลมีต่อตนเอง
เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจในเรื่องอื่น ๆ หรือนักจิตวิทยาบุคลิกภาพก็สนใจว่าการเปลี่ยนเจตคติวิธีใดได้ผลกับบุคคลที่มีบุคลิกภาพเช่นไร เป็นต้น
5. เจตคติเป็นเรื่องที่นักโฆษณาประชาสัมพันธ์สนใจ
นักโฆษณาประชาสัมพันธ์สนใจเรื่องเจตคติทั้งในแง่ของการศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงาน เช่น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อต้านการค้ายาบ้า
โฆษณาให้คนไทยนิยมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นต้น
6.เจตคติเป็นเรื่องที่นักการตลาดสนใจ
โดยมีความสนใจว่าเจตคติของบุคคลมีต่อแง่มุมใดที่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เขาซื้อ สินค้านั้น
ๆ มาใช้ เช่น เจตคติต่อชื่อสินค้า เจตคติต่อยี่ห้อสินค้าหรือเจตคติต่อตัวสินค้าเอง
เป็นต้น
7. เจตคติเป็นเรื่องที่นักรัฐศาสตร์สนใจ
นักรัฐศาสตร์สนใจเจตคติของประชาชนต่อเรื่องต่าง
ๆ ที่มีความสำคัญทางการเมืองการปกครอง เช่น เจตคติของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล
เจตคติของประชาชนต่อการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น
8. เจตคติเป็นเรื่องที่นักสังคมวิทยาบางสาขาสนใจ
จะมีนักสังคมวิทยาเพียงบางสาขาเท่านั้นที่สนใจในเรื่องเจตคติ คือ สาขาจิตวิทยาสังคม ซึ่งนักสังคมวิทยาบางคนเห็นว่า เจตคติเป็นพื้นฐานของพฤติกรรมทางสังคมเนื่องจากมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมในเรื่องต่าง
ๆ ผ่านเจตคติของบุคคลในวัฒนธรรมนั้น ๆ
9. เจตคติเป็นเรื่องที่นักการศึกษาสนใจ
นักการศึกษาสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องเจตคติได้มากมายในลักษณะการศึกษาวิจัย ซึ่งจะก่อให้เกิดความรู้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
นักแนะแนวอาจสนใจศึกษาเจตคติของนักเรียนต่ออาชีพต่าง ๆ เพื่อนำข้อความรู้นี้ไปเป็นพื้นฐานในการแนะแนวอาชีพให้แก่ นักเรียนได้อย่างมีหลักเกณฑ์จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความสำคัญของเจตคติดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า เจตคติมีความสำคัญต่องาน และอาชีพต่าง
ๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษา ครูควรศึกษาเจตคติของนักเรียนทีมีต่อวิชาที่เรียน หรือต่อครูผู้สอน
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง พัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และพัฒนาพฤติกรรมทางการเรียนของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก
เพราพรรณ เปลี่ยนภู่.
2542. จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพ
ฯ: พัฒนาศึกษา.
ลักขณา สริวัฒน์. 2549. จิตวิทยาในชีวิตประจําวัน. พิมพ์ครังที 2. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น